โรคเบาหวานเป็นอย่างไร
Comment 0

โรคเบาหวานเป็นอย่างไร

  •           เป็นภาวะที่มีน้ำตาลในกระแสเลือดสูงกว่าปกติ จากการที่ตับอ่อนสร้างอินซูลินลดลงหรือไม่สร้างเลย ร่วมกับภาวะดื้อต่ออินซูลิน (อินซูลินออกฤทธิ์ลดลง) จัดเป็นโรคเรื้อรังรักษาไม่หายขาด จำเป็นต้องควบคุมระดับน้ำตาลให้ได้ตามเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนของเบาหวานทั้งชนิดเฉียบพลัน และเรื้อรังต่าง ๆ ในหลายอวัยวะ เช่น ตาบอด, ไตวายรื้อรัง, กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด, อัมพาต สำหรับในประเทศไทยพบผู้ป่วยเบาหวานประมาณ 10 %
  •  
  • โรคเบาหวานมีอาการเริ่มต้นอย่างไร ?

              เมื่อมีน้ำตาลในเลือดสูงเล็กน้อยมักไม่มีอาการผิดปกติ อาจตรวจพบจากการตรวจสุขภาพประจำปี ภาวะน้ำตาลสูงมากอาจมีอาการได้หลายอย่าง เช่น ปัสสาวะบ่อย (มากกว่า 1 ครั้งต่อคืน) หิวน้ำบ่อย ทานอาหารมาก น้ำหนักลด อ่อนเพลีย ตาพร่ามัว ชามือ ชาเท้า แผลเรื้อรัง เชื้อราที่ผิวหนัง ตกขาว สมรรถภาพทางเพศเสื่อมหรืออาจพบอาการของโรคแทรกซ้อนของเบาหวานตั้งแต่วินิจฉัย

โรคเบาหวานมีกี่ชนิด ?

  • 1. โรคเบาหวานชนิดที่ 1
    เป็นภาวะที่ตับอ่อนไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เลย จำเป็นต้องฉีดอินซูลินสม่ำเสมอ พบได้ประมาณ 5-10% ของผู้ที่เป็นเบาหวาน มักพบในคนอายุน้อย น้ำหนักน้อย
     2. โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นชนิดที่พบมากที่สุด (ประมาณ 90  – 95%) มักเป็นจากกรรมพันธุ์ สามารถใช้ยาเบาหวานชนิดทานได้
     3. โรคเบาหวานที่มีสาเหตุเฉพาะจากกลุ่มโรคอื่น เช่น  MODY, Cushing, ยาบางชนิด, การติดเชื้อบางอย่าง (CMV, Rubella)
     4. โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ พบได้ประมาณ  2.1% ของการตั้งครรภ์ มักพบช่วงสัปดาห์ที่ 24 – 48 ของการตั้งครรภ์อาจส่งผลกระทบต่อมารดา และบุตรในครรภ์ได้
  • โรคเบาหวานมีวิธีการรักษาอย่างไร ?

  •           โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรัง รักษาไม่หายขาด การรักษามีจุดประสงค์เพื่อควบคุมน้ำตาลให้ได้ตามเป้าหมาย และป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจจะตามมา การรักษามีหลายวิธีต้องปฏิบัติร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับการติดตามการรักษาเป็นระยะ ได้แก่
  • โรคแทรกซ้อนของเบาหวานมีอะไรบ้าง ?

  •           โรคแทรกซ้อนของเบาหวาน แบ่งได้เป็นแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง
  •  
  • ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนเรื้อรังมีอะไรบ้าง ?

  •           หลังจากเป็นเบาหวาน 10 ปี มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังต่างๆ 20 – 80% ดังนั้นระยะเวลาที่เป็นเบาหวานมานาน, ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงและค่าน้ำตาลในเลือดเฉลี่ย (HbA1c) ที่สูงนับเป็นปัจจัยที่เสี่ยงที่สำคัญต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนเรื้อรัง สำหรับปัจจัยอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเบาหวาน เช่น อายุ, พันธุกรรม, ความดันโลหิตสูง, ไขมันในเลือดผิดปกติ, การสูบบุหรี่, การตั้งครรภ์, น้ำหนักเกิน และภาวะดื้อต่ออินซูลิน ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนเรื้อรังด้วยเช่นกัน ดังนั้น การแก้ไขในปัจจัยที่สามารถควบคุมได้ จะสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนเรื้อรังอย่างชัดเจน (ประมาณ 20 – 50%)
  • ยาลดน้ำตาลชนิดรับประทานมีกี่ชนิด ?

    ยาลดน้ำตาลชนิดรับประทาน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ตามกลไกของการออกฤทธิ์ ได้แก่

  • 1. กลุ่มที่กระตุ้นให้มีการหลั่งอินซูลินจากตับอ่อนเพิ่มขึ้น ( insulin secretagogue) ได้แก่
  • 2. กลุ่มที่ลดภาวะดื้ออินซูลิน ได้แก่
  • 3. กลุ่มที่ยับยั้งเอนไซม์การดูดซึมกลูโคสจากลำไส้ (alpha-glucosidase inhibitor) 
  • เช่น acarbose,voglibose เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาในการควบคุมน้ำตาลในเลือดหลังอาหาร

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *