ทำอย่างไรเมื่อลูกมีภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิด
Comment 0
- ภาวะตัวเหลืองที่สูงมากโดยเฉพาะในระดับอันตรายต้องรักษาในโรงพยาบาลเพราะอาจเป็นอันตรายต่อสมอง เช่น ปัญญาอ่อนและพิการได้
- ทารกทุกราย แพทย์จะนัดมาติดตามภาวะตัวเหลืองภายใน 48 - 96 ชั่วโมงหลังกลับบ้าน
- ทารก 2 - 10% อาจต้องรักษา
ภาวะตัวเหลือง (Jaundice) เป็นภาวะที่ร่างกายมีสารสีเหลืองในเลือดสูงที่เรียกว่า บิลิรูบิน(Bilirubin) สารสีเหลืองนี้จะไปเกาะตามส่วนต่างๆ ของร่างกายทำให้สี่ผิวหรือสีตาขาวของลูกตามีสีเหลือง โดยจะเหลืองไล่จากใบหน้าไปสู่เท้าเมื่อสารมากขึ้น และจะเหลืองสูงสุดประมาณ 3-5 วัน แล้วค่อยๆ ลดลงจนหาย การประเมินด้วยสายตาอาจจะยาก ดังนั้นจึงต้องวัดค่าสารเหลืองด้วยการตรวจที่ผิวหนังหรือเจาะเลือดตรวจ แม้ทารกจะมีสุขภาพแข็งแรงดี ก็อาจจะมีตัวเหลืองได้ประมาณ 60 - 70% แต่ต้องการรักษา 2 - 10%

ทำไมลูกจึงตัวเหลือง

1. ตัวเหลืองแบบปกติของทารกแรกเกิด
- เม็ดเลือดแดงมีการแตกทำลายและสร้างใหม่เป็นปกติ แต่ในทารกจะเกิดในอัตราเร็วกว่าผู้ใหญ่ สารฮีนในเม็ดเลือดแดงจะถูกเปลี่ยนเป็นสารสีเหลืองบิลิรูมินและตับของทารกยังทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์จึงขับสารเหลืองออกจากร่างกายยังได้ไม่ดี
- กินนมแม่อย่างเดียวและน้ำหนักลดลงมากหรือขึ้นน้อย

2. สาเหตุที่ทำให้ตัวเหลืองมากกว่าปกติ เช่น กลุ่มเลือดของมารดาและทารกไม่เท่ากันเอมไซม์ G-6 PD เม็ดเลือดแดงต่ำ, ความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดงมาก คลอดก่อนอายุครรภ์ 38 สัปดาห์ โดยเฉพาะคลอดก่อนกำหนด, ภาวะบางอย่าง เช่น ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ ภาวะติดเชื้อ

3.ตัวเหลืองจะเห็นเหลืองไล่จากหน้ามาถึงเท้า หากพบว่าตัวมีสีเหลืองหรือส้มมาถึงหน้าแข้งควรมาพบแพทย์ก่อนนัด
(ห้ามทายาที่เท้า เช่น มหาหิงค์ หรือขมิ้นจะให้ไม่สามารถประเมินสีได้)

4. การประเมินด้วยสายตาควรอยู่ภายใต้แสงที่สว่างดี เช่น หลอดฟลูออเรสเซนต์ แบบ Daylight จะทำให้ดูสีได้ถูกต้อง ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้กดลงที่ผิวหนังแล้วแยกนิ้วออกขณะกด เทียบสีกับใบหน้าว่ามีสีเหลืองหรือส้มหรือไม่

5. ประเมินด้วยสายตาอาจยากหรือผิดพลาดเนื่องจากสีผิวเดิมขอทารก ดังนั้นเพื่อความแม่นยำ แพทย์จึงตรวจด้วยเครื่องวัดสีที่ผิวหนังหรือเจาะเลือดตรวจ

6.หากตัวเหลืองนานกว่า 14 - 21 วัน หรืออุจจาระซีดขาว หรือตัวเหลืองร่วมกับอาการเจ็บป่วย เช่น มีไข้ ซึม ดูดนมลดลง ไม่ค่อยขยับแขนขา ควรมาพบแพทย์

การป้องกันและรักษาภาวะตัวเหลือง

1. ดูดนมแม่จากเต้าอย่างน้อย 8 มื้อต่อวัน หากนมยังน้อยในช่วงแรก ควรดูด 10 - 12 ครั้งต่อวัน จนนมแม่ไหลดี
- ถ้าดูดนมแม่เพียงพอ ลูกจะถ่ายอุจจาระ 3 - 4 ครั้งต่อวัน ปัสสาวะ 4 - 6 ครั้งต่อวัน ถ้าคิดว่ากินนมแม่ไม่พอ ควรปรึกษาแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์

2. เมื่อตรวจพบว่าสารเหลืองสูง
- กรณีสูงไม่มาก ไม่ต้องรักษา ทารกสามารถขับสารสีเหลืองออกมาเองได้
หากสูงต้องรักษา (โดยดูตามกราฟมาตรฐาน) ต้องนอนรักษาในโรงพยาบาล และให้การรักษา ด้วยการส่อง ไฟแสงสีฟ้า (Special blue /deep blue) ซึ่งจะทำปฏิกิริยากับสารสีเหลืองให้เปลี่ยนโครงสร้างเป็นสารที่ขับออกทางอุจจาระปัสสาวะได้ง่าย, ขณะส่องไฟจะถอดเสื้อผ้าทารก ปิดตา และเจาะเลือดตรวจดู ระดับสารสีเหลืองเป็นระยะๆจนลดลงในระดับที่ปลอดภัย

3.การเปลี่ยนถ่ายเลือดจะทำเมื่อสารสีเหลืองสูงวิกฤตอาจจะเป็นอันตรายต่อเสมอง

4.การให้ยาอื่น พิจารณาตามสาเหตุโรคเป็นรายๆไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *