คำแนะนำการปฏิบัติตัว สำหรับผู้ป่วยหลังการผ่าตัดกระเพาะอาหาร
Comment 0

คำแนะนำการปฏิบัติตัว และการรับประทานอาหาร สำหรับผู้ป่วยหลังการผ่าตัดกระเพาะ ลดน้ำหนัก โดยการส่องกล้อง

ระยะที่ 1 (1-3 วัน หลังการผ่าตัด)

ระยะที่ 2 (4-7 วัน หลังการผ่าตัด)

  • ควรจะเริ่มรับประทานอาหาร เป็นมื้อ โดยเป็นอาหารอ่อนเหลวอยู่ที่มีความเข้มข้นมากขึ้น มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ ไม่มีน้ำตาล ไม่มีกากใย เช่น นมจืดพร่องมันเนย นมเวย์โปรตีนสูง น้ำเต้าหู้ไม่ใส่น้ำตาล โยเกิร์ตรสธรรมชาติ

ระยะที่ 3 (8-14 วัน หลังการผ่าตัด)

ระยะที่ 4 (สัปดาห์ที่ 3 -3 เดือน หลังการผ่าตัด)

  • ในช่วงนี้ การรับประทานอาหารจะเป็นเรื่องที่คุ้นเคยมากขึ้น อาหารที่รับประทานได้จะหลากหลายมากขึ้น แต่ว่ามีหลักเกณฑ์อาหารที่ควรรับประทานดังนี้

ระยะที่ 5 (3เดือน – 6 เดือน หลังการผ่าตัด)

  • ในระยะนี้ผู้เข้ารับการผ่าตัด น้ำหนักจะลดลงไป 20-30% จากน้ำหนักตั้งต้น ช่วงนี้บางคนจะเริ่มรับประทานอาหารได้หลากหลายมากขึ้น อาจจะรับประทานได้ปริมาณน้อย หรือรับประทานอาหารได้มากขึ้น แต่บางคนแม้ว่ารับประทานอาหารระหว่างมื้ออิ่มมาก แต่ก็ยังรู้สึกหิวระหว่างมื้อ การผ่าตัดลดน้ำหนักทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้รู้สึกหิวน้อยลงแม้ว่า จะรับประทานอาหารได้น้อย แต่ว่าอย่างไรก็ตามเมื่อน้ำหนักลงมามากประมาณ 20-30% อาจจะรู้สึกหิวมากขึ้นได้ การปรับอาหารสามารถที่จะทำให้ภาวะหิวระหว่างมื้อลดลงได้

  • รับประทานอาหารที่แข็งและแห้งขึ้น เช่น อาหารกลุ่มปิ้ง ย่าง ผัด แต่ไม่ใส่น้ำมัน รับประทานอาหารที่ไม่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลีกเลี่ยงพวกแกงจืด อาหารจำพวก ต้ม ตุ๋น นึ่ง อาจเริ่มกินอาหารประเภทผัด จะทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะได้นาน และอิ่มนานมากขึ้น

  • หลีกเสี่ยงการดื่มน้ำทันทีหลังรับประทานอาหาร เนื่องจากร่างกายปรับตัวได้แล้ว กระเพาะอาหารจะบีบตัวไล่อาหารได้เร็วขึ้น เมื่อดื่มน้ำตาม ดังนั้นควรเริ่มดื่มน้ำประมาณ 1 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหารแล้ว

  • สามารถดื่มเครื่องดื่มประเภทไม่มีพลังงานระหว่างมื้อเพื่อลดความหิวได้ เช่น น้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล น้ำเก๊กฮวย น้ำวิตามิน นมจืดพร่องมันเนย น้ำโปรตีนสูง เวย์โปรตีน ห้ามทานของจุบจิบ เช่น เมล็ดถั่วอบ เมล็ดทานตะวัน ผลไม้ ระหว่างมื้อเนื่องจากมีน้ำตาลสูงและจะทำให้การลดน้ำหนักลดลงได้ไม่ดี ถ้ายังหิวมาก อาจเพิ่มข้าวในมื้ออาหารขึ้นสักเล็กน้อยได้ จะสามารถช่วยลดความหิวได้

ระยะที่ 6 (6 เดือน – 1 ปี หลังการผ่าตัด)

  • ช่วงระยะเวลา เดือนนี้ น้ำหนักอาจจะลดลงได้น้อยแล้ว ซึ่งมากที่สุดอาจจะประมาณ 10% ของน้ำหนักตั้งต้น เช่น ถ้าน้ำหนักเริ่มต้น 100 กิโลกรัมช่วง 6 เดือนแรก ลงมาได้เหลือ 70 กิโลกรัม แสดงว่าช่วง 6 เดือนหลัง อาจจะน้ำหนักลงได้อีก 10 กิโลกรัมในช่วง 6 เดือนที่เหลือ แต่อย่างไรก็ตามถ้าน้ำหนักลดลงอีก ความหิวก็จะมาท้าทายท่านมากขึ้น การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำต่อเนื่องไปตลอด

ระยะที่ 7 (หลังการผ่าตัด 1 ปีขึ้นไป)

  • ระยะนี้น้ำหนักจะไม่ลงแล้ว แต่ควรจำเป็นต้องมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ดีเสมอไป เพื่อรักษาน้ำหนักให้คงที่ และพลังงานจากอาหารที่แนะนำต่อวันไม่ควรเกิน 1,000 kcal น้ำรวมของเหลว 2 ลิตร/วัน และควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (เนื่องจากการดูดซึมเร็วโอกาสเกิดผลข้างเคียงสูง)

การออกกำลังกาย

การรับประทานวิตามินและเกลือแร่เสริม

  • หลังการผ่าตัดกระเพาะอาหาร เพื่อรักษาโรคอ้วน อาจเกิดภาวะขาดวิตามิน และเกลือแร่บางชนิด ควรรับประทานวิตามินและเกลือแร่เสริม หลังผ่าตัด 2 สัปดาห์ เช่น Bariavit วันละ 1 เม็ด หรือวิตามินรวม วันละ 2 เม็ด

กิจกรรมประจำวัน

  • หลังจากแผลผ่าตัดหาย สามารถประกอบกิจกรรมได้ตามปกติได้ทันที

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *