วัณโรค เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากการแพร่เชื้อแบคทีเรีย Mycobacterium Tuberculosis หรือTB วัณโรค เป็นได้กับอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย เช่น ปอด ลำไส้ ไต กระดูก ผิวหนัง ต่อมน้ำเหลืองและเยื่อหุ้มสมอง ที่พบและเป็นมากที่สุดคือวัณโรคปอด
วัณโรค สามารถรักษาหายได้ โดยการกินยาครบทุกเม็ดทุกวันอย่างต่อเนื่อง ไม่น้อยกว่า 6-8 เดือน
วัณโรค…ติดต่อได้อย่างไร
เชื้อวัณโรค ติดต่อโดยการแพร่กระจายจากคนหนึ่งทางระบบหายใจโดยผู้ป่วยที่มีเชื้ออยู่ในเสมหะพุด คุย ไอ จามไม่ปิดปาก เชื้อวัณโรคจะลอยไปกับเสมหะ ละอองฝอยขนาดเล็กที่มีเชื้อล่องลอยปะปนไปกับอากาศ หากหายใจเอาละอองฝอยนี้เข้าไป จะทำให้เกิดการติดเชื้อวัณโรคได้หรืออาจป่วยเป็นวัณโรคได้
ผู้ป่วย ไอ-จาม โดยไม่ปิดปากและจมูก
ผู้อยู่ใกล้หายใจรับเชื้อวัณโรคเข้าสู่ร่างกาย
- ปัจจุบันมียารักษาวัณโรคที่มีประสิทธิภาพสูง หากกินยาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ใช้เวลาเพียง 6-8
- เดือนเท่านั้น(หรือตามดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษา)
- ผู้ป่วยวัณโรคต้องกันยา ครบทุกเม็ด ทุกมื้อ ตามที่แพทย์สั่ง หากได้รับการรักษาไม่ถูกต้อง กินยาไม่ต่อเนื่อง หรือขาดยา จะทำให้เชื้อวัณโรคดื้อยาซึ่งยากต่อการรักษา
- การมีส่วนร่วมของครอบครัวและทุกาคน มีส่วนในการป้องกันการแพร่เชื้อวัณโรค หากพบผู้มีอาการไอเกิน 2 สัปดาห์ ควรแนะนำให้ไปตรวจรักษา
วัณโรคปอด มีอาการอย่างไร
อาการที่สำคัญ คือ
- ไอติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์
- ไอ มีเสมหะปนเลือด
อาการอื่นๆ ที่อาจพบ
- ไอแห้งๆ
- เจ็บหน้าอก เหนื่อยหอบ
- มีไข้ต่ำๆตอนบ่ายหรือค่ำ
- เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อนเพลีย
- เหงื่อออกมากตอนกลางคืน
เมื่อไรควรไปตรวจ…หาเชื้อวัณโรค
- ผู้มีอาการสงสัยวัณโรค
- ผู้อาศัยร่วมบ้าน หรือผู้ใกล้ชิดกับผู้ป่วยวัณโรคปอดเสมหะพบเชื้อ
- เด็กที่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยวัณโรคปอดเสมหะพบเชื้อ
- ผู้ติดเชื้อเอชไอวี / ผู้ป่วยเอดส์
- ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคไต
เมื่อป่วยเป็นวัณโรค ควรปฏิบัติตัวอย่างไร
- กินยาทุกวัน อย่างน้อย 6-8 เดือน ตามที่แพทย์กำหนด
- ไม่หยุดยาเองแม้อาการดีขึ้น เพราะเชื้อโรคยังถูกกำจัดไม่หมด
- หากมีอาการแพ้ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
- ควรมาตามนัดทุกครั้งแม้ยายังไม่หมด
- ควรปิดปากและจมูกทุกครั้งเมื่อไอจาม โดยใช้ผ้าเช็ดหน้า
- จัดสภาพแวดล้อมในบ้านให้มีอากาศถ่ายเท
- เสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ
- ควรบ้วนเสมหะในภาชนะที่มีน้ำยาฆ่าเชื้อและนำไปเททั้งในโถส้วม ราดน้ำให้สะอาด หรือนำไปเผาไฟ
- หากลืมกินยา ให้กินต่อทันทีเมื่อนึกได้โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยา
- มีพี่เลี้ยงกำกับการกินยา จะทำให้รักษาหายเกือบ 100%
ยารักษาวัณโรค สำคัญอย่างไร
ปัจจุบัน มียารักษาวัณโรคที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ซึ่งสามารถรักษาผู้ป่วยให้หายเกือบ 100% หากผู้ป่วยรับยาสม่ำเสมอจนครบกำหนดจะสามารถป้องกันการดื้อยาจากการรักษาได้
การรักษาวัณโรคมี 2 ระยะ
1. ระยะเข้มข้น จะประกอบไปด้วยยาอย่างน้อย 3-4 ชนิด ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อวัณโรคเกือบทั้งหมดอย่างรวดเร็ว จนทำให้ผู้ป่วยพันระยะแพร่เชื้อ
2. ระยะต่อเนื่อง จะใช้ยาอย่างน้อย 2-3 ชนิด ซึ่งมียาฆ่าเชื้อวัณโรคหลงเหลืออยู่ รวมระยะการรักษาตั้งแต่ 6-8 เดือนขึ้นกับประเภทผู้ป่วย
อาการข้างเคียง…ที่เกิดจากการรักษาวัณโรค
1. อาการข้างเคียงที่ไม่รุนแรง เช่น ปัสสาวะสีส้ม คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ชาตามปลายมือปลายเท้าปวดข้อผื่นคัน ควรรับประทานยาวัณโรคต่อไป ไม่ควรหยุดยาเองแล้วไปพบแพทย์
2. อาการข้างเคียงที่รุนแรง เช่น ตามองไม่ซัด ตาบอดสี ตาเหลืองตัวเหลือง หูถึง เสียการทรงตัว เดินไม่ตรงเป็นลม ควรหยุดยาทันทีแล้วรีบไปพบแพทย์
การดูแลผู้ป่วย…และการป้องกันการแพร่เชื้อ
- หากมีคนใกล้ขัดป่วยเป็นวัณโรค ควรให้การใส่ใจดูแล ให้ผู้ป่วยกินยาให้ครบเพราะถ้าผู้ป่วยกินยาสม่ำเสมอจะไม่แพร่เชื้อวัณโรค
- ผู้ป่วยวัณโรคปอดเสมหะพบเชื้อ ต้องปิดปากปิดจมูกทุกครั้งที่ไอหรือจาม เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนรอบข้าง